กรมควบคุมโรค เดินหน้าใช้กลยุทธ์ “ปูมประสิทธิผล” ขยายผลสร้างประชารัฐ ในแต่ละอำเภอ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าใช้ “ปูมประสิทธิผลการป้องกันโรคและภัยสุขภาพ” เป็นกลยุทธ์ และเครื่องมือสำคัญในการสร้างประชารัฐในแต่ละอำเภอ ให้สามารถเป็นกลุ่มพลเมืองที่มีความฉาดฉานทางการจัดระบบ สุขภาพ และคุณภาพชีวิต พร้อมปรับบทบาทการดำเนินงานของกรมควบคุมโรค ใน 2 เรื่องสำคัญ เพื่อขับเคลื่อนการทำงาน ร่วมกับข่ายงานภาคีจากภาคส่วนต่างๆ วันนี้ (6 ธันวาคม 2560) ที่โรงแรมไมด้า งามวงศ์วาน จ.นนทบุรี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดประชุมสัมมนา “ปูมประสิทธิผลการควบคุมป้องกันโรค และภัยสุขภาพ สู่คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ” พร้อมรับมอบผลสรุป ข้อเสนอ และรูปแบบ วิธีการ เครื่องมือ ในการปรับใช้ “ปูมประสิทธิผลการป้องกันโรคและภัยสุขภาพ” (Thai DDC Compendium) โดยใน การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายแพทย์โสภณ เมฆธน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บรรยายพิเศษในหัวข้อ “การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ตามนโยบาย MOPH 4.0 กับเป้าหมายความสำเร็จ ระยะ 1-3 ปี”
สำหรับโครงการนี้ ได้พัฒนาขึ้นโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนานโยบาย (สวน.) ภายใต้การสนับสนุนของ กองทุนโลก ผ่านสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทำการศึกษาวิจัย และพัฒนารูปแบบปฏิบัติการของการพัฒนาและรับรองประสิทธิผลของโครงการป้องกัน และแก้ไขปัญหาเอดส์ ในระดับพื้นที่ชุมชน ซึ่งต่อมาได้ปรับขยายมาสู่การพัฒนาและรับรองประสิทธิผลของ โครงการป้องกันโรค และภัยสุขภาพด้านอื่นๆ ใช้เวลาทดสอบรูปแบบ และวิธีการ รวม 6 ปี
กรมควบคุมโรค ได้รับมอบผลสรุป ข้อเสนอ และรูปแบบ วิธีการ เครื่องมือ ในโครงการดังกล่าว เพื่อนำไป ปรับใช้เสริมสมรรถนะและทักษะให้กับกลไกการขับเคลื่อน “คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ” โดยอาศัยทีมงานทั้งในส่วนกลาง เขต ภูมิภาค ท้องถิ่น ชุมชน และภาคเอกชน ร่วมกันเป็นข่ายงานภาคีที่สามารถ ร่วมกันวิเคราะห์เหตุปัจจัยของปัญหาสุขภาพ และภาวะคุกคามคุณภาพชีวิตร่วมกัน และสังเคราะห์ เป็นแนวทาง รูปแบบ วิธีการ เครื่องมือ และพัฒนาสมรรถนะของทีมงานประชารัฐ ร่วมกันจัดบริการที่ครบถ้วนถูกต้องตามความ เป็นจริง ให้กับกลุ่มประชากรเป้าหมายให้ได้รับบริการที่จำเป็นอย่างทั่วถึง นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรค ได้ปรับบทบาทการดำเนินงานใน 2 เรื่องสำคัญ ดังนี้ 1.ปรับจากผู้กำหนดกลยุทธ์กลวิธีตามแนวทางวิชาการ เป็นการหนุนเสริมบุคลากรสาธารณสุข หน่วยงานภาคี ในภูมิภาค ท้องถิ่น ชุมชน และภาคเอกชน ให้เข้ามาเป็นผู้ร่วมพัฒนา “รูปแบบ” สำหรับป้องกันควบคุมโรค และภัยสุขภาพ ในประเด็นต่างๆ ที่ตรงกับปัญหาของแต่ละพื้นที่ชุมชน 2.พลิกบทบาทของทีมงานสาธารณสุขทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค มาสู่บทบาท “นักจัดการข่ายงานองค์กรภาคี” ภายใต้ “คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ” โดยปรับใช้รูปแบบการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ที่มีประสิทธิผล ที่เท่าทันกับเหตุปัจจัยตามบริบทสังคมอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับขยาย ความร่วมมือกับภาคีในภาคส่วนต่างๆ ผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วยทีมวิชาการ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ทั้งภาคส่วนสาธารณสุข ภาคส่วนการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน กรุงเทพมหานคร และจากกรมราชทัณฑ์ รวม 120 คน โดยกิจกรรมประกอบด้วย นิทรรศการ การบรรยาย การประชุมกลุ่ม ห้องย่อยเรียนรู้ (Creative space) และพิธี มอบโล่เกียรติยศแก่ภาคีข่ายงานที่เข้าร่วมพัฒนาและรับรองฯในปี 2560นี้ รวม 9 ภาคี ได้แก่ 1.ภาคีข่ายงาน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช 2.ภาคีข่ายงาน อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น 3.ภาคีข่ายงาน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา 4.ภาคีข่ายงาน อ.เกาะคา จ.ลำปาง 5.ภาคีข่ายงาน อ.เมือง จ.มุกดาหาร 6.ภาคีข่ายงาน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา 7.ภาคีข่ายงาน รร.ปริยัติธรรมดอยสะเก็ดผดุงศาสน์ จ.เชียงใหม่ 8.ภาคีข่ายงานเรือนจำนนทบุรี กรมราชทัณฑ์ และ 9.ภาคีข่ายงานมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้ร่วมพัฒนานวัตกรรม"โปรแกรมออนไลน์ร่วมเรียนรู้เพศสภาวะกับการป้องกันแก้ไขปัญหานักเรียน" จากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร หากมีข้อสงสัยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 sinv
