อ่างทอง จัดใหญ่ “งานห่มผ้าพระนอน ขอพรพระใหญ่ ประจำปี 2565”
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง เชิญชวนผู้สนใจเที่ยวชมงาน ประเพณีห่มผ้าองค์พระพุทธไสยาสน์พระนอนวัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ระหว่างวันที่ 12-16 พ.ค.65 นี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลและสืบสานประเพณีไทยอันดีงาม เมื่อวันที่ 6 พ.ค.65 นายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยนายอภิชาติ ศรีเหรา นายอำเภอโพธิ์ทอง , นางสาวพิมพกานต์ พิพิธธนานันท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดสุพรรณบุรี , นางวันทนีย์ มีแสง วัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง , พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง , นายแพทย์ธนวัฒน์ วงษ์ผัน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง และ รองศาสตราจารย์สมภพ เขียวมณี ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฎศิลป์อ่างทอง ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “ห่มผ้าพระนอน ขอพรพระใหญ่ จังหวัดอ่างทอง ประจำปี 2565” ณ บริเวณพุทธมณฑลจ.อ่างทอง วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โดยภายในงานมีกิจกรรมการแสดงโขน Hight Light ชุด “หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา ” นายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า งาน “ห่มผ้าพระนอน ขอพรพระใหญ่ จังหวัดอ่างทอง ประจำปี 2565” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-16 พฤษภาคม 2565 ที่บริเวณพุทธมณฑลจ.อ่างทอง วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ทั้งนี้ประเพณีห่มผ้าพระนอนของจ.อ่างทอง เป็น 1 ใน 16 เทศกาลประเพณีที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อยกระดับงานประเพณีไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ ดำเนินกิจกรรมแบ่งเป็นช่วงเทศกาลวันวิสาขบูชา , ช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาประจำปี 2565 สำหรับการจัดงานช่วงเทศกาลวันวิสาขบูชา มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีห่มผ้าพระพุทธไสยาสน์และเป็นการยกระดับเทศกาลประเพณีจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับจังหวัดและระดับภูมิภาคต่อไป ประเพณีห่มผ้าองค์พระพุทธไสยาสน์พระนอนวัดขุนอินทประมูล เกิดจากความเชื่อความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดอ่างทองที่เชื่อว่าหากได้มีการห่มผ้าพระพุทธไสยาสน์จะทำให้ชีวิตมีความสุขความเจริญทั้งต่อตนเองและประเทศชาติ จึงได้ร่วมกันสืบสานประเพณีห่มผ้าพระพุทธไสยาสน์มาเป็นเวลามากกว่า 15 ปี จังหวัดอ่างทอง โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง จึงได้จัดทำโครงการประเพณีห่มผ้าพระนอนจังหวัดอ่างทอง ประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2565 ขึ้น เพื่อเป็นการยกระดับเทศกาลประเพณีจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับจังหวัดและระดับภูมิภาคต่อไป โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่ออนุรักษ์ สืบทอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ดีงาม 2. เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รู้ และทราบประวัติความเป็นมาและความสำคัญของประเพณี 3. เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ รักและร่วมกันฟื้นฟู อนุรักษ์ประเพณีให้สืบทอดต่อไป 4. เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และ 5. เพื่อยกระดับเทศกาลประเพณีสู่ระดับจังหวัดและระดับภูมิภาค จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมชมงาน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยจากโควิด-19 ของทุกท่านโปรดนำบัตรประชาชน และผลตรวจ ATK ภายใน 72 ชม. หรือ ผลการฉีดวัคซีน 2 เข็มมาแสดง