ไหนว่าเขาจะแย่
เมื่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศตุรกี ประเทศที่ก่อนหน้านั้นไม่นานข่าวคราวบอกว่าหนี้สินท่วมหัว กำลังจะล้มละลาย ค่าเงินตกมาก ค่าใช้จ่ายถูกสุด ๆ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบสนามบินก็คิดว่าน่าจะจริง เพราะคนไปเที่ยวเยอะมาก ต้องเข้าคิวที่สนามบินเป็นชั่วโมง คนไปเที่ยวน่าจะคิดเหมือน ๆ กัน คือเที่ยวอย่างถูกและดี แต่พอแลกเงินผมก็เอะใจว่ามันจริงหรือไม่ที่เงินเขาตกต่ำมาก เพราะเทียบกับเงินไทยตกราว ๆ ห้าบาทกว่าต่อหนึ่งดีล่าตุรกี ผมไม่เคยรู้อัตราเงินตุรกีก็เลยไม่ทราบว่าตกไปมากจริงอย่างที่ว่ากันไหม แต่ผมว่ามันแพงอยู่นะ ค่าท่องเที่ยวที่พวกผมจ่ายก็ไม่ถูกเท่าไหร่ประมาณหนึ่งอาทิตย์คนละสี่หมื่นกว่าบาท ก็ไม่ว่ากันเอาความสุขเป็นที่ตั้ง ไปเที่ยวฤดูนี้เขาว่ากันว่าอากาศดี ผมก็คิดว่าดีสำหรับผมคือราว ๆ สิบองศาเซลเซียส แต่ถ้าคนที่ขี้หนาวหน่อยก็อาจว่าไม่ดีเพราะมันหนาวเกินไป แต่ผมชอบอากาศอย่างนี้ (ชาติก่อนผมต้องเป็นปลาแน่ ๆ 555) ออกจากสนามบินเราก็เข้าที่พักใช้เวลาเดินทางรวมเวลาเปลี่ยนเครื่องด้วยประมาณสิบห้าชั่วโมงเศษ ออกจากบ้านเกือบหกโมงเช้าถึงโรงแรมในตุรกีเกือบสามทุ่ม (เวลาเขาช้ากว่าประเทศไทยสามสี่ชั่วโมง) ก็เหนื่อยเอาการสำหรับคนอายุหกสิบกว่าอย่างพวกผม ถึงโรงแรมเขาเตรียมอาหารเย็นไว้ให้ ไกด์บอกว่าเป็น meat ball เราก็นึกว่าเป็นลูกชิ้นเนื้อ ที่ไหนได้กลายเป็นเนื้อสับเป็นแผ่นๆ เนื้อก็เป็นเนื้อรวมมิตร คือผสมแกะกับวัว สับรวมกันเป็นแผ่น ๆ ไม่เห็นกลมเหมือนลูกบอลเลย แต่เขาเรียก meat ball เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยกับมันฝรั่ง มีสลัดให้อีกจานแล้วก็ซุปถั่ว (ซึ่งอร่อยนะ ตามความรู้สึกของผม อร่อยเฉพาะซุป อย่างอื่นไม่ค่อยถูกลิ้นเท่าไหร่) กินของคาวเสร็จพวกผมก็รีบขึ้นห้องพักผ่อนตอนเช้าไกด์บอกว่าเขาเตรียมไอศกรีมเป็นของหวานไว้แต่คณะไม่มีใครกินเลย ก็มันง่วงและเหนื่อย แล้วก็ไม่บอกกันก่อนว่ามีอะไรบ้างบอกแค่ meat ball เราก็นึกว่ามีแค่นั้น ก็เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับคนไป ต่างประเทศกับทัวร์ จำไว้ว่ามีของคาวแล้วต้องมีของหวาน หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นผลไม้เพราะเขาต้องจัดครบ ไม่ได้กินของหวานก็ไม่ลดค่าใช้จ่ายนะเพราะจ่ายไปก่อนหน้านั้นแล้ว หลังจากนั้นพวกเราก็ออกไปขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวอีกเมือง ยังไม่ได้เที่ยวที่ไหนเลยนั่งเครื่องไปสามหนแล้ว นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ค่าใช้จ่ายกลุ่มนี้มากกว่ากลุ่มอื่นเพราะเรานั่งเครื่องเยอะนั่นเอง เที่ยวตุรกีครั้งนี้เห็นแต่นักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นจีน กับประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม ผมพบกับคนมาเลเซียหลายคน บางคนเข้าใจภาษาไทย บอกว่าอยู่รัฐปะลิศ ก็ดีใจที่มีคนอาเซียนไปเที่ยวกันเยอะส่วนใหญ่วัยเกษียณทั้งนั้น แต่คนจีนนั้นหนุ่มสาวเยอะมาก คนจีนนี่เป็นจ้าวแห่งการท่องเที่ยวจริง ๆ เพราะไปที่ไหนก็เจอแต่คนจีน แสดงว่าเงินเยอะ เหลือใช้เลยเอาเงินเที่ยวกัน หรือเพราะว่าได้ข่าวว่าเที่ยวตุรกีค่าใช้จ่ายถูก ใครเงินมาก ๆ ก็ไปเที่ยวยุโรปเช่นฝรั่งเศส เงินปานกลางก็เที่ยวไทย เงินน้อยไม่ค่อยมีก็เที่ยวในประเทศไปก่อน (อันนี้คิดเอาเอง) แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ไปเที่ยวที่ไหนก็พบแต่คนจีน นับว่าเป็นมหาอำนาจทางการท่องเที่ยวตัวจริงเสียงจริง ไปตุรกีเที่ยวนี้ได้เห็นอะไรหลายอย่าง ที่เขาว่าตุรกีกำลังจะแย่ ในสายตาผมก็ว่าปกติดี ไม่เห็นจะแย่ตรงไหน ประชาชนเขาก็อยู่ปกติ ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรมาก สินค้าราคาก็ปกติแม้ว่าจะสูงสักหน่อยแต่ตลาดทั่วไปต่อรองได้ ยิ่งเป็นตลาดธรรมดาที่ไม่ใช่ห้างบางทีต่อได้กว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เหมือน ๆ กับประเทศจีน แต่คุณภาพดูแล้วน่าจะเหลื่อมกว่านิดหน่อย (ในสายตาของผมนะ) อาหารการกินก็ไม่ได้ขาดแคลนเพียงแต่ไม่ค่อยอร่อย แค่พอกินได้ไม่ได้แพงจนต้องชะเง้อคอกิน ผมคิดว่าบางครั้งเราเสพข่าวกันจนเกินไปแล้วหลงเชื่อตามข่าวอย่างเอาเป็นเอาตาย เลยทำให้วิเคราะห์อะไรผิด ๆ ไป น่าจะคิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนว่าอะไรเชื่อได้แค่ไหน ผมมาตุรกีเที่ยวนี้ได้เห็นในสิ่งที่แตกต่างจากข่าวหลายเรื่อง ที่ชัดๆก็คือสิ่งของต่าง ๆ ไม่ได้ถูกมากมายแต่เป็นราคาปกติ ตามคุณภาพ อย่างเช่นเครื่องหนังราคาสูงหน่อยแต่คุณภาพเขาดีและถูกกว่ายุโรปทั่ว ๆ ไป เงินตุรกีก็มีค่าพอสมควรไม่ได้เฟ้อจนไร้ค่า ก็ได้แต่หวังว่าคนที่เสพแต่ข่าวจะได้ฉุกคิด ประเภทฟังหูไว้หูบ้าง พูดถึงตุรกี ธรรมชาติเขาดีนะครับ แม้ต้นไม้จะน้อยภูเขามีมากมายแต่ภูเขาก็สวยงาม สูงต่ำเป็นธรรมชาติ มีถ้ำ มีโบราณสถานให้ได้เห็นร่องรอยความยิ่งใหญ่ ของชาวเติร์กว่ามีอาณาจักรกว้างขวางทั้งเอเชียและยุโรป ได้เห็นช่องแคบบอสฟอรัสอันสวยงาม วิถีชีวิตของผู้คนที่ตกปลาบนสะพานได้ปลามากมายท่ามกลางแดดตอนเที่ยงแต่ลมเย็นมากจนไม่รู้สึกร้อน มันเป็นเสน่ห์ของเมืองโบราณแห่งนี้ ได้ไปเห็นถ้ำ เห็นปราสาท ราชวัง ก็ยิ่งรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต เห็นความก้าวหน้าทางการท่องเที่ยว และเห็นความเคร่งครัดเรื่องการปฏิบัติตนตามศาสนามุสลิมก็ยิ่งชื่นชม เขาว่าตุรกีเป็นอิสลามมิกชนที่ไม่ค่อยเคร่งนักแต่ผมสัมผัสได้ว่าเขาเคร่งครัดพอสมควร ดังนั้นใครที่ฟังแต่ข่าวอ่านแค่หนังสือต้องมาเห็นด้วยตาและสัมผัสด้วยใจจะได้เข้าใจอะไรที่มันถูกต้องมากขึ้น ตุรกีมีดีหลายเรื่องแต่มีเรื่องที่แย่เหมือนเมืองไทยคือรถติดมาก โดยเฉพาะที่อิสตันบูล ติดทั้งวันและทุกวัน หรือเป็นเพราะนักท่องเที่ยวเยอะก็ไม่รู้ สิ่งที่ต้องปรับปรุงอย่างแรกของตุรกีคือค่าบริการขึ้นบอลลูนที่ทุกคนใฝ่ฝันจะไปขึ้น บอกตรง ๆ ว่าคนละ 230 ดอลลาร์สหรัฐนี่มันโคตรแพงจริง ๆ แม้ว่าผมเป็นโรคกลัวความสูงไม่ได้ขึ้นกับเขา แต่พอเห็นราคาค่าขึ้นแล้วแม้คนไม่กลัวความสูงก็อาจตัดสินใจไม่ขึ้นเพราะกลัวเงินหดจากกระเป๋าโดยไม่จำเป็นก็ได้ ติงไว้เฉยๆ เขาคงไม่ได้อ่านหรือได้ยินหรอก สมชาย เจริญอำนวยสุข 3 เม ย 62